ต้องยอมรับว่าภาครัฐได้พยายามออกมาตรการกระตุ้นภาคอุตสาหก
อ่านข่าวต้นฉบับ: กำลังซื้อคนไทยติดหล่ม ท่องเที่ยวปลุกไม่ขึ้น-ดันเปิดรับต่างชาติ

ต้องยอมรับว่าภาครัฐได้พยายามออกมาตรการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากปลดล็อกให้คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะโครงการ “เที่ยวปันสุข” ภายใต้งบประมาณรวม 22,400 ล้านบาท ซึ่งยังขับเคลื่อนไปได้ต่ำตามเป้าหมายจนต้องขยายวันสิ้นสุดโครงการจาก 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปเป็น 31 มกราคม 2564

“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงปัจจัยที่ทำให้การดำเนินการมาตรการดังกล่าวขับเคลื่อนได้ช้า แนวทางการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไว้ดังนี้

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

รับกำลังซื้อในประเทศไม่มี

“รมต.พิพัฒน์” ยอมรับว่า การขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยถึงขณะนี้ยังมีผู้ใช้สิทธิ์ห้องพักไปแล้วประมาณ 2 ล้านคืนต้น ๆ เท่านั้น จากทั้งหมด 5 ล้านสิทธิ์ และยังมีเงินงบฯ เหลืออีกจำนวนมากนั้นสะท้อนชัดเจนว่า กำลังซื้อของคนไทยในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากภาพรวมเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด

โดยปัจจุบันกำลังซื้อของคนไทยกลับคืนมาได้ในระดับแค่ราว 33% ของปี 2562 จึงเชื่อว่าแม้จะพยายามอัดมาตรการมากแค่ไหน กำลังซื้อของคนไทยก็คงจะไต่ขึ้นได้สูงสุดแค่เพียงประมาณ 40% และเมื่อเข้าสู่ 2564 สถานการณ์กำลังซื้อจะยิ่งทวีความหนักหน่วง และคาดว่าจะตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 15% ของปี 2562 เท่านั้น

ยันต้องเปิดรับต่างชาติโดยเร็ว

“ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยที่ผ่านมามีรายได้จากตลาดโดเมสติก หรือท่องเที่ยวภายในประเทศเพียง 30-35% กระตุ้นเท่าไหร่ก็คงไม่ได้เพิ่มไปได้มากกว่านี้ และไม่สามารถเติมเต็มให้กับซัพพลายที่โอเวอร์อยู่ในขณะนี้ได้”

พร้อมระบุว่า ทางออกเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยดีขึ้น ณ เวลานี้จึงเป็นการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น

“หากประเทศไทยยังคงกำหนดเปิดรับชาวต่างชาติแบบจำกัด และยังต้องกักตัว จะใช้เวลา 14 วัน 10 วัน หรือ 7 วัน 5 วัน ก็ยังไม่มีผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยวประเทศไทย จนกว่าประเทศไทยจะไม่มีการกำหนดวันกักตัวเท่านั้น ดังนั้น หากรัฐไม่บาลานซ์ระหว่างด้านความปลอดภัยและเศรษฐกิจ และยังไม่ยอมเปิดประเทศรับต่างชาติแบบไม่มีการกักตัวไปแบบนี้ ผมเชื่อว่ากลางปีหน้าซัพพลายท่องเที่ยวจะล้มหายตายจากไปราว 50% ของตลาด หลังจากหลายรายทยอยปิดกิจการชั่วคราวเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย”

เดินหน้าเจรจาทูตต่างประเทศ

“รมต.พิพัฒน์” บอกว่า ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯเตรียมเดินหน้าเจรจากับสถานทูตประเทศต่าง ๆ ประจำประเทศไทย โดยที่ผ่านมาได้เข้าพบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทยแล้ว พร้อมทั้งเจรจาเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟชาวเกาหลีให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย

พร้อมกักตัวในโรงแรมที่อยู่ในสนามกอล์ฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้สนามกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมโครงการเสนอตัวเข้าร่วมโครงการ State Quarantine แล้ว คาดว่าจะสามารถรองรับชาวเกาหลีได้ภายในไตรมาสสุดท้ายนี้

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเข้าพบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อหารือโอกาสในการจับคู่เปิดประเทศอย่างจำกัด หรือ travel bubble ที่เป็นแนวทางการเปิดประเทศจับคู่ประเทศความเสี่ยงใกล้เคียงกันโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

จากนั้นจะขยายผลการเจรจากับเอกอัครราชทูตประเทศอื่น ๆ ด้วย อาทิ ญี่ปุ่น, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ ฯลฯ โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้

วางแผนเจาะรายประเทศ

สำหรับพื้นที่ประเทศจีนนั้น “รมต.พิพัฒน์” บอกว่า ตั้งเป้าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจาก 22 มณฑล ที่ปลอดจากโควิด-19 เป็นระยะเวลามากกว่า 150 วัน ที่มีฐานประชากรจีนรวมกว่า 800 ล้านคน และคาดการณ์ว่าประเทศไทยน่าจะพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนแบบไม่ต้องกักตัวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

โดยเชื่อว่าความมั่นใจของคนไทยจะทวีขึ้นหลังจากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางด้วย special tourist visa (STV) ที่เดินทางเข้าไทย 3 กลุ่ม ในวันที่ 20, 26 และ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ปลอดเชื้อหลังกักตัว 14 วันแล้วเสร็จ

ในขณะที่ตลาดญี่ปุ่น ได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ดำเนินการหารือขั้นตอนและแนวทางนำนักธุรกิจและช่างเทคนิคจากญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางเข้าไทยกว่า 8,000 คน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ดันอีเวนต์กีฬาหนุนท่องเที่ยว

“รมต.พิพัฒน์” ยังบอกอีกว่า สำหรับในปี 2564 นี้ กระทรวงได้เตรียมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และการกีฬาผ่านการดึงมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติมาจัดในไทย โดยขณะนี้ยืนยันแล้ว 3 งาน ประกอบด้วย งานแข่งขันแบดมินตันระดับสูงสุดของโลก 3 รายการใหญ่อย่าง HSBC BWF World Tour ตลอดเดือนมกราคม คาดว่าน่าจะใช้สถานที่จัดงานที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นอกจากนั้น ยังมีงานเอเชียนอินดอร์ มาร์เชียล อาร์ตส เกมส์ (Asian Indoor and Martial Arts Games) ที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม 2564 ที่กรุงเทพฯ และชลบุรี คาดมีนักกีฬาและสตาฟร่วมงาน 9,000 คน สร้างรายได้อย่างน้อย 1,000 ล้านบาท

และในช่วงปลายปีจะมีงานแข่งขันโมโตจีพี (MotoGP) จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 10-12 ตุลาคม คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 170,000 คน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

หวังกองทุนท่องเที่ยวต่อชีวิต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังพูดถึงแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วยว่า ที่ผ่านมากระทรวงมีความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดกองทุนฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายใต้วงเงิน 50,000-100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจการท่องเที่ยวนับตั้งแต่กระทรวงการคลังภายใต้การกำกับของนายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จนมาถึงปัจจุบันกระทรวงการคลังก็ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางและเงื่อนไข หลังรับแนวทางจากนายกรัฐมนตรีไปแล้ว

ขณะเดียวกันแม้จะมีความพยายามผลักดันเรื่องการลดกำแพงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ไม่มีสินทรัพย์ หรือบัญชีมีผลประกอบการที่ขาดทุน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ของธนาคาร

พร้อมย้ำว่า แนวทางการตั้งกองทุนและมาตรการการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเอกชนนั้น เป็นประเด็นที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯให้ความสำคัญและกระทุ้งมาตลอด และเข้าใจว่าซัพพลายทุกเซ็กเตอร์เดือดร้อนหนัก ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปิดตัวไปอีกมหาศาล ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยรวมในอนาคตอย่างแน่นอน

อ่านข่าวต้นฉบับ: กำลังซื้อคนไทยติดหล่ม ท่องเที่ยวปลุกไม่ขึ้น-ดันเปิดรับต่างชาติ

Recommend more :

ททท. เปิดแผนตลาดปี’64 รุกเจาะกลุ่ม “มิลเลนเนียล”
“รี้ดเทรดเด็กซ์” รุกปรับกลยุทธ์ รับเทรนด์ใหม่ “งานแสดงสินค้า” หลังโควิด
ส.โรงแรม ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็น Hospitel รับผู้ป่วยโควิด
One Pic Big Dream ภาพหนึ่งภาพ (สามารถ) เปลี่ยนเป็น “แหล่งท่องเที่ยว”
โรงแรม 3.7 พันแห่ง ปิดตาย ทุนต่างชาติไล่ทุบราคา “ภูเก็ต-สมุย”
“อิตัลไทย” กัดฟันฝ่าพิษโควิด “ธุรกิจโรงแรมไม่มีวันตาย”
“โลเคเนชั่น” เปิดแพลตฟอร์ม ศูนย์รวมโรงแรมกักตัว ASQ Paradise
“บินไทย” รุกเปิดคีออสขายปาท่องโก๋รับกระแสแห่งแรก ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์
ดุสิตธานีเปิดตัว “ดุสิตธานี ลากูน่า สิงคโปร์” ปักหมุดแบรนด์ไทยในศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก
ทอท. ไม่จ่ายโบนัสพนักงาน หลังเจอพิษโควิดเล่นงานหนัก
ดุสิตฯ ชี้ ’64 ปีแห่งการปรับเอาตัวรอด หลัง ’63 ยากลำบากที่สุดของอุตฯโรงแรมไทย
ศรีพันวา เปิดรับ 70 นักท่องเที่ยวต่างชาติ ใช้ระบบกักตัวรูปแบบใหม่

Leave a Reply