ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยใน
อ่านข่าวต้นฉบับ: “บี๋-ปิยะมาน” ฟันธง ! ระยะยาวอุตฯท่องเที่ยวไทย (ยัง) ดี

ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ยังคงมีทางออกไม่มากนัก และยังเป็นโจทย์ที่หนักสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะหลายส่วนยังคาดการณ์ตัวเลขรายได้จากภาคธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ว่าจะปิดตัวเลขรายได้ไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท จากที่ทำรายได้รวมที่ 3 ล้านล้านบาทในปี 2562 ที่ผ่านมา

โดยมองว่าเป็นผลจาก 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปจากต่างประเทศและ 2.มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศยังไม่บรรลุเป้าหมาย

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษ “คุณบี๋-ปิยะมาน เตชะไพบูลย์” ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแนวคิด มุมมอง รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ ต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยที่กำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 อย่างหนัก ไว้ดังนี้

ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)
ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

คาดปีนี้ทำได้ราว 9 แสนล้าน

“ปิยะมาน” ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้รุนแรงมาก หนักกว่าทุกปัญหาในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเสื้อเหลือง-แดง, โรคซาร์ส ฯลฯ ที่สำคัญ ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการท่องเที่ยวของไทยก็จะฟื้นตัวได้เร็ว

สำหรับวิกฤตโควิดครั้งนี้ทั่วโลกแก้ปัญหาด้วยการปิดประเทศ หยุดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้ทุกประเทศได้รับผลกระทบหมด ที่สำคัญไม่สามารถประเมินได้เลยว่าสถานการณ์จะลากยาวไปอีกนานแค่ไหน จะมีวัคซีนและการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับคืนสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่

“ตอนนี้ผ่านมา 7-8 เดือนแล้วที่ประเทศไทยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา และมองว่าผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยวของไทยเราน่าจะต้องเผชิญวิกฤตอยู่แบบนี้ไปอีกนาน หรือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพราะส่วนตัวมองว่าเร็วสุดที่คนจะมีความสบายใจในการเดินทางก็น่าจะประมาณกลางปี 2564”

จากผลกระทบอย่างหนักนี้ “ปิยะมาน” บอกว่า ทำให้คาดว่ารายได้ท่องเที่ยวของไทยปีนี้น่าจะมีมูลค่ารวม 9 แสนล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เก็บมาได้แล้วในช่วงครึ่งปีแรกที่ราว 6 แสนล้านบาท ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะทำได้สักประมาณ 3 แสนล้านบาท

ยันเปิดประเทศไม่มีนัยสำคัญ

เมื่อถามว่า ความพยายามในการเปิดประเทศแบบเฉพาะกลุ่มของรัฐบาลในช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมานั้น มีนัยสำคัญต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้จากตลาดต่างประเทศแค่ไหน “ปิยะมาน” บอกว่า ส่วนตัวมองว่าการผลักดันเรื่องเปิดประเทศที่ผ่านมาเป็นความพยายามในช่วงเริ่มต้น และทดลองระบบมากกว่าจะมุ่งในเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยว

เนื่องจากในช่วงเวลาปกติ ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยที่ราว 3 ล้านคนต่อเดือน แต่นโยบายการเปิดประเทศขณะนี้มีจำนวนเพียงแค่เดือนละหลักพันคนเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีนัยสำคัญต่อรายได้มากนัก

และมองว่า การเปิดประเทศของไทยนั้นประเด็นสำคัญอยู่ที่ “มวลชน” กล่าวคือ คนในพื้นที่รองรับนั้นเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาสังคมยังมีปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจกันสูงมาก

ย้ำต้องมียุทธศาสตร์หลัก

“ปิยะมาน” ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทุกเซ็กเตอร์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระทบหมด เป็นปรากฏการณ์ที่มีความท้าทายสูง ทุกส่วนต้องคิดใหม่ และตระหนักว่าธุรกิจท่องเที่ยวก็มีความเสี่ยงที่รุนแรงขนาดนี้ได้เช่นกัน ซึ่งข้อดีของวิกฤตรอบนี้คือ เป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องเรียนรู้และปรับตัว

ดังนั้น ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามาช่วยกันดูอย่างจริงจังเพื่อพยุงให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเดินหน้าต่อไปได้ เช่น ในส่วนของภาครัฐเองจำเป็นต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ในแต่ละพื้นที่มีการลงทุนไปเท่าไหร่ มีจำนวนห้องพักรวมเท่าไหร่ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีข้อมูลที่ดีสำหรับประกอบการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องทำงานแบบบูรณาการให้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่ต่างคนต่างขาย ทุกหน่วยงานต้องพูดคุยและแชร์ข้อมูลกันมากขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน และไม่เกิดการซ้ำซ้อนของภารกิจและงบประมาณ

ขณะเดียวกันควรต้องเพิ่มบทบาทของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ให้มากขึ้นด้วย โดยกำหนดให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต้องมีแผนยุทธศาสตร์หลัก โดยคณะกรรมการที่เข้ามาบริหารก็จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ดีด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาและขับเคลื่อนให้ธุรกิจมีการเติบโตที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นหลัก ยังเน้นเรื่องนโยบายและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในภาพรวมที่น้อยเกินไป

“ช่วงนี้น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการบูรณาการและกลับมาทบทวนเรื่องยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนว่า เราจะขับเคลื่อนตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศอย่างไร เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นไทมิ่งและสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ชัดเจน และถูกเวลามากยิ่งขึ้น”

หนุนตั้งกองทุนพยุงท่องเที่ยว

ต่อคำถามอีกว่าระหว่างนี้เราควรบริหารจัดการซัพพลายอย่างไรเพื่อให้ทุกส่วนฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ “ปิยะมาน” บอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับแนวทางที่มีคนเสนอให้รัฐจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อให้กองทุนดังกล่าวนี้มาช่วยพยุงกิจการไว้ก่อน จะขายคืนให้ในเวลา 5 ปี หรือจะทำอย่างไรต่อไปก็ต้องชัดเจน

ส่วนตัวอยากให้รัฐช่วยพิจารณาและเห็นความสำคัญ โดยตั้งเป็นกองทุนใหญ่เหมือนกองทุนวายุภักษ์ เพื่อให้ทุกส่วนได้รับการช่วยเหลือได้อย่างแท้จริง

“ประเด็นนี้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ที่ควรเข้าไปผลักดันต่อกับทางกระทรวงการคลังเพื่อให้โครงการเกิดขึ้น เพราะหากรัฐไม่มาช่วยพยุง วิกฤตใหญ่ขนาดนี้เอกชนไม่มีทางอยู่รอดได้”

ระยะยาวท่องเที่ยวไทย (ยัง) ดี

“ปิยะมาน” ยังบอกด้วยว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ยังคาดการณ์ยากและคาดว่าจะยังคงลากยาวไปถึงกลางปีหน้า แต่ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยในการบริหารจัดการกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จนได้รับการจัดอันดับจาก Global Health Index ว่าเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขดีเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชีย ทำให้เชื่อมั่นว่าทันทีที่เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไหลเข้าประเทศไทยแน่นอน

โดยระหว่างนี้ทุกส่วนจำเป็นต้องเร่งทบทวน ปรับรูปแบบ และหาแนวทางการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ให้ได้ ที่สำคัญ ผู้ประกอบการเองก็จำเป็นต้องปรับแนวคิดและวิธีการบริหารด้วย

พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า ในระยะยาวเมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ รัฐบาลเปิดประเทศ “การท่องเที่ยว” ของไทยจะสามารถกลับมาพลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็ว

อ่านข่าวต้นฉบับ: “บี๋-ปิยะมาน” ฟันธง ! ระยะยาวอุตฯท่องเที่ยวไทย (ยัง) ดี

Recommend more :

‘อุดรธานี’ ปรับโมเดล ดูดนักท่องเที่ยว ‘จีน-เวียดนาม’
IHG ชี้ “ท่องเที่ยวโลก” เริ่มฟื้น รุกเพิ่มโรงแรมใหม่ในไทย
คนโสดโปรดรอ! ททท. เตรียมเปิดตัว ‘เส้นทางคนโสด Single Journey
กระทรวงแรงงาน จี้ “การบินไทย” ดูแลพนักงาน กรณีเลิกจ้าง
ชงครม. เลื่อนวันเข้าพัก “เราเที่ยวด้วยกัน” ยืดเวลาถึง 31 ต.ค.64
จับ 50 ผู้กระทำผิด “เราเที่ยวด้วยกัน” จ่อขยายผล 900 คน “ประยุทธ์” เผย
เปิดชื่อที่พักทั่วไทย เสมือนได้ไปดาวอังคาร โดยไม่ต้องออกนอกวงโคจร
สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และเกาะของไทย
ATTA ร่อนหนังสือถึง “ประยุทธ์” เปิดรับต่างชาติ “ไม่กักตัว”
“อโกด้า” เผยสงกรานต์คนไทยแห่เที่ยวทะเล พร้อมนอนหรูอยู่โรงแรม 4-5 ดาว
มิชลินสตาร์ ปี’64 ร้านใหม่ติดดาวเพิ่ม 3 ร้าน
กรมบังคับคดีประกาศให้ “เจ้าหนี้นกแอร์” ยื่นขอชำระหนี้ภายใน 15 ม.ค. 64

Leave a Reply