กำหนดวันอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ สำหรับการเ
อ่านข่าวต้นฉบับ: เปิดวิชั่น 3 บิ๊กท่องเที่ยว แคนดิเดต ประธาน สทท. คนใหม่

กำหนดวันอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ สำหรับการเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) โดยครั้งนี้มีผู้สมัครลงแข่งขันรวม 3 คน

ประกอบด้วย นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธาน สทท. ที่กำลังจะหมดวาระ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ (โกจง) ทีม SMART ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) และนางสาวศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข ทีม MOVE เจ้าของโรงแรมอุบลบุรี และหนึ่งในผู้คลุกคลีและทำงานร่วมกับ สทท. มาเป็นเวลานาน

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมแนวคิดในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ให้ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ พร้อมวางแนวทางให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ไว้ดังนี้

ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร

กำลังจะหมดวาระครบ 2 ปีเต็มและครบ 1 วาระแล้วที่ “ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” นั่งแท่นบริหารในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) หลังจากได้รับการเลือกตั้งมาเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2561

ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธาน สทท.
ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธาน สทท.

โดยในช่วงปลายของวาระแรกนั้นมีกระแสข่าวออกมาว่า “ชัยรัตน์” พร้อมวางมือ ไม่บริหารต่อในวาระ 2 แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจลงสนามแข่งขันและเสนอตัวเป็นประธาน สทท.ต่ออีก 1 วาระ (ดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระ)

ครั้งนี้ “ชัยรัตน์” บอกว่า นโยบายหลักที่จะผลักดันในสมัยวาระ 2 นี้ หลัก ๆ คือเรื่องของการตลาด ทั้งตลาดเที่ยวในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย, คนไทยเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงต่างประเทศเที่ยวไทย โดยจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ควรจะแน่นแฟ้นกว่านี้ รวมทั้งมุ่งทำงานแบบบูรณาการกันมากขึ้น โดยทีมบริหารทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนกลางต้องมานั่งคุยกันให้มากขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเดินไปได้พร้อม ๆ กัน

ขณะเดียวกันยังมีแผนพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอย่างแท้จริง รวมถึงเรื่องบิ๊กดาต้าเพื่อให้ทุกส่วนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่ม SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งหมดมีโอกาสเรียนรู้เรื่องการขายออนไลน์

โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นสู่ “แชมป์ท่องเที่ยว” ซีซั่นใหม่ตลอด 2 ปีข้างหน้า หรือ Thailand Champion Again Global Expat & Tourism Hub

“ชัยรัตน์” อธิบายว่า แนวนโยบายหลักคือ จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยยังคงเป็นแชมป์ด้านการท่องเที่ยว และจะดึงความสนใจและความสามารถในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เมื่อหมดการแพร่ระบาดของโควิดแล้ว

และต้องทำควบคู่กับแนวความคิดใหม่ ๆ ตลาดใหม่ ๆ เนื่องจากโลกยุคใหม่จะทำตลาดแบบแมสทัวริซึ่มเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องมาคิดกันว่า เราต้องทำอย่างไร เมื่อประเทศอยากที่จะได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ

พร้อมทั้งยอมรับว่า ด้วยโครงสร้างของภาคการท่องเที่ยวของไทยที่ได้ลงทุนไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่จำนวน 40 ล้านคน หากยังไม่มีวัคซีนก็ยังคงลำบากกันต่อไป เพราะตลาดไทยเที่ยวไทยปีนี้ผลักดันอย่างไรก็ไม่ถึง 100 ล้านคน-ครั้ง แต่ก็คงยังต้องผลักดันต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 200 ล้านคน-ครั้งในปี 2564

ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ตนพยายามผลักดัน คือ 1.เปิดประเทศ และ 2.ภาครัฐเข้ามาดูแล หาทุนใหญ่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่ไปต่อไม่ไหว หรือหาทุนใหญ่มาช่วยพยุงทุนเล็กในรูปแบบของพาร์ตเนอร์กัน จะในรูปแบบการร่วมลงทุน หรือให้เงินกู้ยืม และจัดให้มีการพบปะเพื่อทำบิสซิเนสแมตชิ่ง โดยมีข้อตกลงว่าให้เจ้าของสามารถซื้อคืนได้ภายใน 3 ปี หรือ 5 ปี

โดยมีเป้าหมายว่าให้ผู้ประกอบการทุกคนอยู่รอดได้ เพราะหากปล่อยให้ต่างชาติเทกโอเวอร์ไป กลุ่มทุนไทยไม่มีโอกาสได้ซื้อคืนแน่นอน

“ตอนนี้คนท่องเที่ยวคงต้องช่วยกันเอง เพราะเราเชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยยังสามารถพยุงให้อยู่รอดต่อไปได้ และเชื่อว่าเมื่อมีวัคซีน หรือโควิดหยุดการแพร่ระบาดประเทศไทยจะเป็นเดสติเนชั่นแรก ๆ ที่ทั่วโลกจะกลับมา”

“ชัยรัตน์” ทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับในส่วนของทีมงานขณะนี้มีความพร้อมมาก มีทั้งกลุ่มคนรุ่นเก่า ทีมกรรมการเก่าบางส่วน และทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ โดยทุกคนที่เข้ามาล้วนมีเป้าหมายช่วยกันทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่รอดและเดินต่อไปได้

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ (โกจง)

อยู่ในวงการท่องเที่ยวไทยมากว่า 30 ปี ผ่านงานบริหารด้านท่องเที่ยวมาเกือบทุกสาขาและเป็นที่รู้จักของสังคมคนท่องเที่ยวทั่วประเทศสำหรับ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” หรือ “โกจง” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) และเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยผลักดันให้ “ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (สทท.) ในปี 2561 ปีนี้ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของ TFOPTA จึงลงมติให้ “โกจง” ลงชิงตำแหน่งประธาน สทท.

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)
ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)

“ชำนาญ” หรือ โกจง หัวหน้าทีม SMART บอกว่า ตนในฐานะผู้ประกอบการในหลาย ๆ เซ็กเตอร์ ทั้งบริษัทนำเที่ยว, รถขนส่ง, เรือนำเที่ยว, โรงแรม, ร้านอาหาร, ธีมปาร์ก ฯลฯ พบว่าขณะนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะวิกฤต หรือ tourism crisis อย่างแท้จริง และโควิดทำให้เราเห็นว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยไม่มีความแข็งแรงเลย ตนจึงอยากขออาสาทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยแข็งแรงขึ้น

พร้อมทั้งเสริมความเข้มแข็งด้านการเงินด้วยพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงิน และสร้างโอกาสทางการตลาดโดยมีพันธมิตร คือ ททท. และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ เพื่อให้คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยรอดไปด้วยกัน

โดยมอง 3 ส่วนหลักคือ 1.มองว่าประเทศไทยควรมีธนาคารเพื่อการท่องเที่ยว หรือ tourism bank เพื่อดูแลธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งเงินทุน

2.ควรจะมีสถาบันพัฒนาการท่องเที่ยว (tourism clinic) สำหรับเป็นสถาบันอัพสกิล รีสกิลให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความแข็งแรงและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้คนท่องเที่ยว

และ 3.ทำแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว (tourism platform) โดยมองว่าประเทศไทยควรมีแพลตฟอร์มของตัวเอง หรือ national platform เพื่อเป็นมาร์เก็ตเพลซหนึ่งของผู้ประกอบการทุกสาขาอาชีพ โดยมีมาตรฐานของ สทท.รับประกันคุณภาพ

แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้จะรวบรวมสินค้าและบริการทั้งหมดของประเทศไทยมาอยู่ในมาร์เก็ตเพลซดังกล่าวนี้ เหมือนเป็นห้างออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าโมเดลนี้จะสามารถทำให้ทุกคนลดต้นทุนในการเข้าถึงผู้บริโภคเป้าหมายของตัวเองได้

“ผมรู้ว่าการเสนอตัวเข้ามาทำงานช่วงนี้ไม่ง่าย แต่เชื่อมั่นว่าต้องมีฮีโร่สักคนที่มาทำตรงนี้ คือช่วยพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยให้อยู่รอด ผมอยากเป็นคนนั้น และมั่นใจว่าทำได้แน่นอน”

“โกจง” บอกด้วยว่า ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องการนักประสบการณ์มาทำงาน และตนในฐานะที่เป็นนักประสบการณ์ผ่านมาเกือบทุกสาขาอาชีพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและมีฐานข้อมูลด้านการท่องเที่ยวทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมที่จะเข้ามาทำงานอย่างเต็มที่ โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างเข้มข้น และขับเคลื่อนให้เห็นภาพชัดเจน เห็นผล จับต้องได้ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ

รวมทั้งมีแผนที่จะรวมการท่องเที่ยวในภูมิภาคกับส่วนกลางเข้าด้วยกัน โดยให้ส่วนกลางเป็นฝ่ายขาย ส่วนภูมิภาคเป็นฝ่ายพัฒนาและดูแลสินค้าตัวเองให้ดูดี มีภาพลักษณ์และมีมาตรฐาน และนำฝ่ายขายกับฝ่ายผลิตสินค้ามาเจอกัน

สำหรับทีมงานนั้น “โกจง” ย้ำว่า ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ต้องเอานักประสบการณ์มาเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะพวกเขาเก่งอยู่แล้ว แล้วเอานักวิชาการมาช่วยถอดรหัสความคิดของนักประสบการณ์อีกครั้งเพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้าใจตรงกันและขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน

ที่สำคัญทีม SMART พร้อมขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกลับมาเติบโตและสามารถยืนหยัดต่อไปได้ อีกทั้งยังอยากมีส่วนในการวางรากฐานให้โครงสร้างของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมมีความ smart และยั่งยืนในอนาคตด้วย

ศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข

เป็นผู้สมัครที่คลุกคลีและทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มานานกว่า 10 ปี ผ่านการทำงานร่วมกับอดีตประธาน สทท.มาหลายยุคหลายสมัยสำหรับ “ศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ส้ม”

ศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข ทีม MOVE เจ้าของโรงแรมอุบลบุรี
ศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข ทีม MOVE เจ้าของโรงแรมอุบลบุรี

“ศิริรัตน์” บอกว่า ส่วนตัวได้ทำงานร่วมกับอดีตประธาน สทท. มาหลายท่านผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ยอมรับว่าโควิดรอบนี้วิกฤตจริง ๆ ดังนั้นคนท่องเที่ยวต้องมาช่วยกันดูว่าวิกฤตแบบนี้เราจะต้องทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่รอด และเปิดให้ทุกส่วนเข้ามาร่วมมือกันทำงาน ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการในเมืองหลัก ๆ ยินดีที่จะเข้ามาร่วมเป็นทีมช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

บางส่วนได้เขียนแผนยุทธศาสตร์ส่งมาแล้วว่าพวกเขาอยากจะเห็นสภาท่องเที่ยวเดินไปในทิศทางไหน และพร้อมเข้ามาช่วยกันแก้ไข

โดยนโยบายหลักของทีม MOVE คือการเดินไปข้างหน้า สร้างคน สร้างงาน และผ่านวิกฤตไปด้วยกัน โดยมีหลักการบริหาร 4 ส่วนหลัก คือ

M : หมายถึง Management คือการบริหารงานอย่างชาญฉลาดด้วยประสบการณ์และทีมงานที่เข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนเชิงนโยบายของประเทศ

O : หมายถึง Opportunity คือเปิดโอกาสสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และเพิ่มศักยภาพองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยพยายามหาศักยภาพใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร และหาความร่วมมือใหม่ของผู้ประกอบการ

V : หมายถึง Vaccine คือสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบอย่างยั่งยืน เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจ

และ E : หมายถึง Equality คือขับเคลื่อนองค์กรร่วมกันกับทุกสาขาอาชีพ และภูมิภาคอย่างเท่าเทียม โดยให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม

“ศิริรัตน์” บอกด้วยว่า ประเด็นหลัก ที่ทางทีมพูดคุยกันในเบื้องต้นคือ เราจะก้าวข้ามวิกฤตโควิดกันไปอย่างไร โดยโฟกัสว่าจะปรับลดค่าใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการกันอย่างไร โดยหากกระแสเงินสด หรือแคชโฟลว์เข้ามาให้ผู้ประกอบการหมุนเวียน เพื่อให้ฟันเฟืองของธุรกิจมันเดินต่อไปได้

ขณะเดียวกันก็ได้พยายามรวบรวมประเด็นปัญหาและความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ให้เดินควบคู่ไปกับรัฐบาล รวมถึงสร้างดีมานด์ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร อาทิ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ฯลฯ รวมถึงเรื่องของแกสโตรโนมิกทัวริซึ่ม และฮาลาลทัวริซึ่ม เป็นต้น

“ศิริรัตน์” ยังเล่าถึงความพร้อมด้านทีมงานที่อาสาเข้ามาทำงานด้วยว่า ทีม MOVE มีทีมงานที่เข้มแข็งมาก โดยขอให้อดีตประธาน สทท.ทุกท่าน รวมถึงผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ในวงการเข้ามาร่วมจับมือทำงานกับคนรุ่นใหม่ โดยมีคุณวิจิตร ณ ระนอง นั่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ ช่วยดูแนวทิศทางของ สทท. ว่าควรขับเคลื่อนไปในแนวทางไหนอย่างไร

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากทั้ง 150 สมาคมที่เป็นมาชิก สทท. เข้ามาร่วมขับเคลื่อนภายใต้แนวทาง Put the right man on the right job. เพื่อร่วมกันสร้างบ้านให้แข็งแรง จากนั้นจึงมาดูว่าบ้านเราขาดอะไร รวมถึงเข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเชิงนโยบายของประเทศด้วย

ทั้งนี้ หัวใจหลักสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ การทำยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด สำหรับเป็นโมเดลของการท่องเที่ยวว่าในแต่ละจังหวัดต้องการขายอะไร เพื่อให้การขับเคลื่อนไปในทิศทางที่กำหนดไว้และสามารถเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน

“ในยุคก่อนหน้านี้การขับเคลื่อนมีเพียงแค่ 2 ระดับ คือ ระดับจังหวัดและเป็นสภาท่องเที่ยวใหญ่ ไม่มีระดับภูมิภาค ทำให้ขาดการเชื่อมต่อกัน”

โดยย้ำว่า ระบบการบริหารใหม่ของทีม MOVE จะนำยุทธศาสตร์ระดับจังหวัดมาเชื่อมโยงในระดับคลัสเตอร์ ซึ่งจะกำหนดโครงสร้างระดับภูมิภาคขึ้นมาใหม่ โดยแบ่งเป็น 5 ภูมิภาค จากนั้นก็มาเชื่อมต่อในระดับประเทศต่อไป เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างครบวงจรและเชื่อมโยงกันได้อย่างแท้จริง

อ่านข่าวต้นฉบับ: เปิดวิชั่น 3 บิ๊กท่องเที่ยว แคนดิเดต ประธาน สทท. คนใหม่

Recommend more :

“ภูเก็ต” โหมปลุกท่องเที่ยว คาดเริ่มฟื้นตัวเมษายนนี้
พนักงานการบินไทย ขายเสื้อยืด “สู้ต่อ” ปลุกใจไม่ยอมแพ้
“การบินไทย” ลดผู้บริหารเหลือ 500 จาก 740 อัตรา ปรับโครงสร้างฟื้นธุรกิจ
เตรียมลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน” 1 ล้านสิทธิ์ เป็นของขวัญปีใหม่
รื้อแผนฟื้นฟูการบินไทย “ธ.กรุงเทพ-กรุงไทย” แท็กทีมขอเอี่ยวบริหาร
“อัศวิน อิงคะกุล” เปิดใจ คำว่า “มิราเคิล” ปิดไม่ได้ ถอยไม่ได้
“ไทยแอร์เอเชีย” ดัน airasia.com รุก OTA เต็มตัว! ชูจุดแข็งฐานข้อมูล-สายการบิน ทำราคาชิงตลาด
ลุ้นอีกครั้ง! ครม. เคาะ ขยาย 2 ล้านสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”
“ไทยแลนด์ อีลิท” ตั้งเป้า ล้างขาดทุนสะสม 18 ปี หมดในปีนี้
ผู้บริหาร “นกแอร์” ทยอยลาออก เปิดทางฟื้นฟูกิจการ
“สวนสยาม” ย้ำเปิดบริการ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
ครม.สัญจรภูเก็ต ไฟเขียว อนุรักษ์-ฟื้นฟูชายฝั่งอันดามัน 12 โครงการ 2,298 ล้าน

Leave a Reply