ยังไม่ทันข้ามปี “การท่องเที่ยว” ของไทยก็ต้องเผชิญกับปัจ
อ่านข่าวต้นฉบับ: ท่องเที่ยวโค้งท้ายสะดุด “โควิดสมุทรสาคร” ทุบมู้ดในประเทศ

ยังไม่ทันข้ามปี “การท่องเที่ยว” ของไทยก็ต้องเผชิญกับปัจจัยลบอีกครั้ง! เมื่อตรวจพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สมุทรสาคร และอีกหลายจังหวัดรอบข้าง

แน่นอนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้เข้ามาเป็น “ปัจจัยลบ” สำคัญที่ทำลายบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังคึกคักของฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นปลายปี คนไทยกำลังจะเข้าสู่โหมดวางแผนการท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างจริงจัง

ท่องเที่ยวไฮซีซั่นปลายปีสะดุด

แหล่งข่าวในภาคธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เดิมทีเดียว ททท.ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวรวมสำหรับปี 2563 นี้ไว้ที่ 3.18 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้คาดว่าตลาดไทยเที่ยวไทยจะมีมูลค่ารวม 1.16 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 172 ล้านคน-ครั้ง

ทั้งนี้ หลังจากภาคการท่องเที่ยวของไทยเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 และมีการล็อกดาวน์ประเทศ ห้ามเดินทางระหว่างจังหวัดรวมกว่า 3 เดือน บวกกับปัญหาทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของคนไทยที่ลดลง ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศสะดุดตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หยุดเดินทางไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อกให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศไทย พร้อมทั้งออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ภายใต้โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง

โดยคาดการณ์ว่าจำนวนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศสำหรับปีนี้จะขยับได้ถึง 100 ล้านคน-ครั้ง

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต้นตออยู่ที่สมุทรสาคร และพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียงครั้งนี้ ถือเป็นประเด็นปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอีกครั้ง และเชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้สะดุดลงอีกครั้งแน่นอน”

รับกระทบท่องเที่ยวแน่นอน

เช่นเดียวกับ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ที่ประเมินว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบนี้ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของความไม่เชื่อมั่น

“แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการยกเลิกการเดินทางเหมือนตอนที่เจอการระบาดที่เชียงรายและเชียงใหม่ ทุกคนยังอยู่ในช่วงการติดตามสถานการณ์ แต่โควิดที่เกิดขึ้นตอนนี้นับว่าแรงมาก เดิมทีเดียวใน 100% เราหานักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเติมให้ได้สัก 30% ทุกคนก็จะอยู่รอด แต่พอมาถึงตอนนี้ทุกคนน่าจะกลับมาได้รับผลกระทบกันอีกรอบ”

พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนจะกระทบมากหรือน้อยนั้นยังคงต้องรอประเมินอีกครั้ง ซึ่งหากไม่ลุกลามมากอาจจบได้ภายใน 1 เดือน หรือหากบานปลายอาจกระทบถึง 1-2 เดือน

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทยจะสามารถควบคุมและดูแลสถานการณ์ได้เหมือนที่ผ่านมา ขณะที่คนไทยทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลและปฏิบัติตัวตามระเบียบของสาธารณสุขด้วยเช่นกัน

ยังประเมินผลกระทบยาก

“ธนพล ชีวรัตนพร” นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก และเริ่มขยายยังจังหวัดรอบ ๆ รวมถึงกรุงเทพฯ ซึ่งก็น่าจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงปลายปีนี้แน่นอน

ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะยังไม่เห็นภาพการทยอยยกเลิกห้องพักหรือโปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวคนไทยทั่วไป แต่ก็เริ่มเห็นการยกเลิก เลื่อน และย่อขนาดการจัดงานประชุม สัมมนาของบางหน่วยงานลงแล้ว

“หากถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวมากแค่ไหน ส่วนตัวยังมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจ แต่ยังยากที่จะประเมินในเวลานี้ คงต้องรอให้ผ่านไปสัก 1 สัปดาห์เพื่อดูภาพรวมอีกครั้งว่าขยายวงกว้างไปจังหวัดอื่น ๆ แค่ไหน”

“ธนพล” บอกด้วยว่า ตอนนี้ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ยังไม่กระทบโดยตรงต่อจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ของคนไทย แต่ในนามของ สทน. ซึ่งส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก็อยากให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวกันด้วยความระมัดระวังที่สุด

ทบทวนจัดงานเคานต์ดาวน์

ด้าน “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ยอมรับว่ากรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสมุทรสาครนั้น อาจกระทบต่อการตัดสินใจออกเดินทางของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม เช่นกลุ่มครอบครัว แต่จะยังมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปฉลองปีใหม่ร่วมกับคนใกล้ชิด จึงยังเชื่อว่าไม่ถึงขั้นดับฝันภาคท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ ททท.ต้องรอข้อสรุปเรื่องการจัดงานเคานต์ดาวน์อีกครั้ง โดยปีนี้ ททท.ให้การสนับสนุนการจัดงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่รวม 11 งานทั่วประเทศ และจัดงานเอง 1 งานคือ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย หลังพบผู้ติดเชื้อในภาคเหนือ

พร้อมย้ำว่า ถ้าไม่เจอกรณีโควิดสมุทรสาครรอบนี้จำนวนนักท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2563 มีลุ้นแตะ 100 ล้านคน-ครั้ง แต่พอเจอกรณีดังกล่าว ททท.จึงประเมินใหม่ว่าน่าจะปิดที่ 95 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5 แสนล้านบาท

อ่านข่าวต้นฉบับ: ท่องเที่ยวโค้งท้ายสะดุด “โควิดสมุทรสาคร” ทุบมู้ดในประเทศ

Recommend more :

รายได้โรงแรม ปี 63 ร่วงหนัก ทุนใหญ่ยังรอด-พอร์ตอาหารหนุน
“แกรนด์แอสเสท” อัดโปรฯดุ พัก 1 ปี จ่าย 1 ล้าน ดันยอดจอง
ครม. ไฟเขียว 46.48 ล้านบาท “บินไทย” จัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์
โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ งดขายเพียง 2 นัด “กรมบังคับคดี” แจง
ศบค.ไฟเขียวจัดแข่งกีฬา-เปิดให้ต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ-รับข้อเสนอ ยอร์ช ควอรันทีน
เร่งคิกออฟไทยเที่ยวไทย หนุน “ผู้ประกอบการ” รอด
ททท.ชี้แบ่งโซนเสี่ยงหนุนเที่ยวโค้งท้าย-สั่งงดกิจกรรมพื้นที่สีแดง
“รถทัวร์นำเที่ยว” ตายสนิท (คาด) ปี’65 เหลือไม่ถึงหมื่นคัน
IHG ชี้ “ท่องเที่ยวโลก” เริ่มฟื้น รุกเพิ่มโรงแรมใหม่ในไทย
รื้อแผนฟื้นฟูการบินไทย “ธ.กรุงเทพ-กรุงไทย” แท็กทีมขอเอี่ยวบริหาร
ผู้ว่าฯ ททท. ยื่นฟ้องกลุ่มทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” 16 ธ.ค.นี้
เช็กที่นี่!! มาตรการจัดประชุม แสดงสินค้า อีเวนต์ งานเทศกาลปลายปี

Leave a Reply