ท่องเที่ยวไทยซบหนัก ! คาดไตรมาสแรกเสียหายกว่า 1.3 แสนล้
อ่านข่าวต้นฉบับ: ททท.หวั่น Q1 สูญ 1.3 แสนล้าน งัดแผนเฉพาะกิจรับมือ-ขาย ตปท.มีนานี้

ท่องเที่ยวไทยซบหนัก ! คาดไตรมาสแรกเสียหายกว่า 1.3 แสนล้าน ททท.งัดแผนเฉพาะกิจ 2 ปี เสริมแผนรัฐวิสาหกิจ ฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี’64-65 เผยมุ่งขยายฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เร่งความเชื่อมั่น สร้าง top of mind ในการเดินทางท่องเที่ยว

ล่าสุดเตรียมเจรจาพันธมิตร “โรงแรม-สายการบิน” ทำแพ็กเกจขายยุโรป อเมริกาช่วงมีนาคม-เมษายนนี้ หวังนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทางอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าปี’65 ได้นักท่องเที่ยว 20 ล้านคน ดันรายได้รวมถึง 2.5 ล้านล้าน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า มาตรการการควบคุมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่นี้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งนี้หากประเมินจากสถิติของปี 2563 ที่ผ่านมาที่มีทั้งช่วงที่ล็อกดาวน์ (เมษายน-มิถุนายน) และช่วงที่ปลดล็อกแล้ว (ตุลาคม-ธันวาคม) ทำให้คาดว่าจากมาตรการห้ามการเดินทาง จำกัดจำนวนคน ฯลฯ ของรัฐบาลจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยจะสูญเสียรายได้ทางเศรษฐกิจประมาณเดือนละ 46,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังคงใช้มาตรการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไปอีกสัก 3 เดือน คาดว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 นี้ สูญเสียรายได้รวมประมาณ 1.38 แสนล้านบาท

งัดแผนเฉพาะกิจ 2 ปีรับมือ

จากข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNWTO และจากการประเมินตลาดของ ททท.คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวโลกรวมถึงประเทศไทยน่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 2 ปี ดังนั้นเพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์ที่ยังไม่ฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ททท.จึงได้ทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยปี 2564-2565 ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติงานเฉพาะกิจ 2 ปี อันเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และนำมาเสริมแผนแม่บทของรัฐวิสาหกิจเดิม

ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเชิงคุณภาพ โดยมีแนวทางหลัก 4 เรื่องใหญ่ ๆ ประกอบด้วย การสร้างความเชื่อมั่นให้การท่องเที่ยวของไทย, การกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ, การบริหารด้านซัพพลาย และแผนการทำตลาดต่างประเทศ

นายยุทธศักด์กล่าวด้วยว่า ตามแผนรัฐวิสาหกิจเดิมนั้น ททท.จะโฟกัส 4 เรื่องคือ ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ, เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว, สร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าแบรนด์ของประเทศไทยให้แตกต่าง ปลอดภัยและประทับใจ และพัฒนาองค์กรให้เป็น HPO (high performance organization) ซึ่งทั้งหมดจะตอบโจทย์ในเรื่องของการเพิ่มรายได้

มุ่งสร้าง Top of Mind

ส่วนประเด็นที่เพิ่มเติมเข้ามาในแผนเฉพาะกิจคือ

1.การสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังคงคิดถึงประเทศไทย (top of mind) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยทำให้ประเทศไทยเป็นท็อปเดสติเนชั่น ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทั้ง 29 แห่งยังทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง

2.การกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศทั้งในเชิงพื้นที่และเชิงเวลา

3.สานต่อการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการสินค้าท่องเที่ยว และเสริมศักยภาพให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ 4.เตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพจากต่างประเทศ

เริ่มทำตลาด ตปท.มีนาฯนี้

สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ททท.จะมุ่งเน้นการกระตุ้นการใช้จ่าย ขยายฐานนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายและมีความต้องการเฉพาะด้าน โดยจะพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวที่เรียกว่า high value tourism เช่น กลุ่มลักเซอรี่, เฮลท์แอนด์เวลเนส, สปอร์ต, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ฯลฯ

ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มทำการตลาดตั้งแต่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้เป็นต้นไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังนี้

โดยเบื้้องต้นจะโฟกัสตลาดที่เป็นระยะไกล หรือ long haul อาทิ ยุโรป, อเมริกา ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะกลุ่มนี้มีระยะเวลาพำนักยาวและมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันได้เริ่มเจรจากับพันธมิตรในส่วนของสายการบินในตะวันออกกลาง เช่น เอมิเรตส์, กาตาร์ ฯลฯ และโรงแรมบางส่วนเพื่อร่วมกันทำแพ็กเกจการขายแล้ว รวมถึงหารือร่วมกับ DMC ซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการและประสานงานด้านการเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

“ตามแผนเราจะเปิดขายแพ็กเกจเที่ยวเมืองไทยเลย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่อบอกให้ชาวต่างชาติรับรู้ว่าประเทศไทยพร้อมต้อนรับทุกคนแล้ว ถ้าขายไปแล้วแต่ยังเดินทางไม่ได้
เราก็เปิดให้สามารถเลื่อนการเดินทางได้ เรียกว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศไทยพร้อมแล้ว” นายยุทธศักดิ์กล่าว

ตั้งเป้าปี’65 รายได้ 2.5 ล้านล้าน

นายยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานในช่วง 2 ปีนี้ (2564-2565) ด้วยว่า ททท.ได้ตั้งเป้าสำหรับปี 2564 ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปี 2563มีรายได้ประมาณ 5 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 51% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมีจำนวนคนไทยเที่ยวภายในประเทศ 120 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมีรายได้ 7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปี 2563 โดยมีรายได้รวม 1.2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปี 2563

นอกจากนี้ยังคาดการณ์ปี 2565 ด้วยว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับปี 2564 มีรายได้รวม 1.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีจำนวนคนไทยเที่ยวในประเทศ 180 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2564 มีรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยมีรายได้รวม 2.5 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับปี 2564 (ดูตารางประกอบ)

จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยว

ลดการพึ่งพารายได้ต่างประเทศ

“หากเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นปีปกติ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดจะพบว่า ปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปี 2560 ถึง 50% แต่ในส่วนของรายได้นั้นเริ่มขยับมามีสัดส่วนประมาณ 80% ของปี 2562 แล้ว ดังนั้นโจทย์ใหญ่ของการทำงานในปี 2564-2565 นี้คือ การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติขณะที่ตลาดในประเทศก็ยังต้องเร่งเครื่องอย่างเต็มที่เช่นกัน” นายยุทธศักดิ์กล่าว

และว่า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดการพึ่งพารายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยตามแผนทำงานในปี 2565 ประเทศไทยจะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศอยู่ที่ราว 52% ลดลงจากปี 2562 ที่มีสัดส่วนของตลาดต่างประเทศที่ 64%

นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อไปอีกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น มาตรการด้านสาธารณสุข (กักตัวหรือไม่กักตัว), ความพร้อมในการรองรับของคนไทย, ปริมาณคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน, ความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงนโยบายของประเทศต้นทางด้วย

อ่านข่าวต้นฉบับ: ททท.หวั่น Q1 สูญ 1.3 แสนล้าน งัดแผนเฉพาะกิจรับมือ-ขาย ตปท.มีนานี้

Credit ข่าวและภาพจาก ฟีดข่าวประชาชาติ : https://www.prachachat.net

Recommend more :

“ไทยแลนด์ อีลิท” ตั้งเป้า ล้างขาดทุนสะสม 18 ปี หมดในปีนี้
คำสั่ง “งดเดินทาง” 28 จังหวัด ทุบโรงแรมปิดตัวชั่วคราว (อีกครั้ง)
(ถ้า) คนท่องเที่ยวไม่รวมพลัง ท่องเที่ยวไทยจะเข้มแข็งได้อย่างไร ?
โผไม่พลิก! “โกจง-ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” นักธุรกิจแดนใต้คว้าประธาน สทท.คนใหม่
เปิดประเทศกู้ชีพจรเศรษฐกิจ 6 เมืองท่องเที่ยวเฮ-ทะลักภูเก็ต
ปักหมุด 7 พื้นที่เช็กอินงานสีสันแห่งสายน้ำ : ลอยกระทง’63 ทั่วไทย
“ดิเอราวัณ” โหมลงทุนฮ็อปอินน์ ดันขึ้น No.1 “บัดเจตโฮเทล” เอเชีย-แปซิฟิก
“แอร์ไลน์” สำลักพิษโควิด แห่ลดเที่ยวบิน-ติดหล่มสภาพคล่อง
แอร์เอเชีย ชี้การบินเริ่มฟื้น จี้อุ้ม “ซอฟต์โลน” พยุงธุรกิจ
สั่งปิด “น้ำตกธารทอง” จ.ลำปาง หลังถล่ม-ดินสไลด์ หวั่นเกิดเหตุซ้ำ
“สิงคโปร์” พลิกโฉมท่องเที่ยวเชิงรุก โมเดล “ปลุกเศรษฐกิจ
“คลัง” ไม่แฮร์คัตหนี้ “การบินไทย” หาช่องเพิ่มทุนเสริมสภาพคล่อง

Leave a Reply