สัมภาษณ์ ยังคงอยู่ในภาวะ “เจ็บหนัก” กันทั่วหน้าสำหรับกล
อ่านข่าวต้นฉบับ: “รถทัวร์นำเที่ยว” ตายสนิท (คาด) ปี’65 เหลือไม่ถึงหมื่นคัน

สัมภาษณ์

ยังคงอยู่ในภาวะ “เจ็บหนัก” กันทั่วหน้าสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรถทัวน์นำเที่ยว

เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมดนั่นเอง

หรือครบ 1 ปีเต็ม ๆ แล้วที่กลุ่ม “รถทัวร์นำเที่ยว” จอดนิ่งสนิท ไม่มีงานทำ และแน่นอนพนักงานขับรถทั้งหมดอยู่ในโหมด “ตกงาน” ขณะที่เจ้าของธุรกิจก็ต้องแบกรับภาระผ่อนชำระค่างวดรถโดยไม่มีรายได้

“วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) ผู้ให้บริการรถทัวร์นำเที่ยว ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงสถานการณ์ของกลุ่มผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยว รวมถึงแนวทางที่สมาคมได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ไว้ดังนี้

วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร
วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.)

อยู่รอดได้ไม่เกินหมื่นคัน

“วสุเชษฐ์” บอกว่า สถานะของกลุ่มผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยวในเวลานี้คือ “ตายสนิท” แล้ว โดยบางส่วนหรือประมาณ 30% ตายไปตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา จากจำนวนรถทั้งหมดราว 4 หมื่นคัน หรือหายไปแล้วกว่า 1 หมื่นคัน และเชื่อว่าในจำนวนที่อยู่รอดมาถึงวันนี้น่าจะล้มหายตายจากไปอีกไม่ต่ำกว่า 50%

นั่นหมายความว่า ถึงสิ้นปีนี้จำนวนรถทัวร์นำเที่ยวจะล้มหายตายจากไปอีกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นกว่าคัน โดยคาดการณ์ว่าเมื่อถึงปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ว่ากันว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวน่าจะเริ่มฟื้นกลับมาได้บ้างนั้น จำนวนรถทัวร์นำเที่ยวที่อยู่รอดในตลาดได้ไม่ถึง 1 หมื่นคันแน่นอน หรือเหลือประมาณ 25% ของตลาดรวมเท่านั้น

รายใหญ่ยังรอด

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการนั้น “วสุเชษฐ์” บอกว่า แบ่งออกป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มขนาดใหญ่ มีสัดส่วนประมาณ 20% กลุ่มนี้จะมีรถทัวร์ตั้งแต่ 100 คันขึ้นไป กลุ่มขนาดกลาง กลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 40% มีรถตั้งแต่ 20-100 คัน และกลุ่มรายย่อย หรือรายเล็ก อีกประมาณ 40% กลุ่มนี้จะมีรถตั้งแต่ 1 คัน แต่ไม่เกิน 20 คัน

โดยกลุ่มที่ยังไม่ตายและยังพอมีแรงเหลืออยู่บ้างคือ กลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนต่างชาติ มีธนาคาร หรือสถาบันการเงินสนับสนุน ซึ่งกลุ่มนี้ธนาคารคงไม่ปล่อยให้ตาย

“เมื่อปีที่แล้วเราขอกู้เงินเพื่อเอามาซ่อมบำรุง รถคันหนึ่งเมื่อจอดนาน ๆ ก่อนนำกลับมาใช้งานก็ต้องทำการซ่อมบำรุง ซึ่งรถคันหนึ่งมีต้นทุนในการซ่อมบำรุงราว 2 แสนบาท ตอนนั้นเจ้าของก็ชั่งใจอยู่ว่าจะใส่เงินหรือไม่ แต่พอมีโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ออกมา เริ่มมีดีมานด์การใช้รถบ้างในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ทำให้หลายคนตัดสินใจซ่อมบำรุงรถ เปลี่ยนแบตเตอรี่ เปลี่ยนยาง ฯลฯ ทำงานได้ไม่นานโควิดระลอกใหม่มาเดือนธันวาคม ทุกคนที่ลงทุนไปช็อกกันหมด หวังว่ากู้หนี้ใหม่มาจะทำงานได้เงินไปใช้หนี้เก่าได้บ้าง สุดท้ายต้องกลับมาจอดสนิทกันอีกครั้ง”

วอนรัฐช่วยอุ้ม

พร้อมย้ำว่า หากยังไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ วันนี้บอกได้คำเดียวคือ “ไม่รอด” แน่นอน

“วสุเชษฐ์” บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาทางสมาคม สปข.ได้นำเสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ทางกระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการคลังให้ความช่วยเหลือไปแล้ว บางส่วนก็ได้รับความช่วยเหลือแล้วแต่ก็มีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

เช่น กรมขนส่งทางบก (คมนาคม) โดยให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือยืดหยุ่น และยกเว้นในเรื่องการต่อทะเบียนรถ ใบอนุญาตประกอบกิจการ ค่าปรับ การตรวจสภาพรถ เป็นต้น

ส่วนประเด็นที่ต้องขอต่อไปคือ เรื่องเงินชดเชยตกงาน เงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ อาทิ ขอเยียวยาให้กลุ่มผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยว 5,000 บาทต่อคัน จำนวน 3 เดือน รวมคันละ 15,000 บาท
รวมถึงขอให้ทางกระทรวงการคลังเจรจากับบริษัทไฟแนนซ์ให้ช่วยยืดเวลาผ่อนชำระ หรือลดดอกเบี้ย หรือพักเงินผ่อนชำระและพักดอกเบี้ย เป็นต้น เนื่องจากเวลานี้ผู้ประกอบการไม่มีรายได้

เช่นเดียวกับในส่วนของกระทรวงแรงงานนั้น ทางสมาคมก็ได้ขอในเรื่องของเงินช่วยเหลือพนักงานที่ตกงาน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีศักยภาพในการจ่ายเงินเดือนหรือดูแลพนักงานต่อไปได้แล้ว ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอไปคือ ระบบ co-pay สำหรับดูแลพนักงานเก่าเพื่อรักษาสถานภาพการจ้างงานไว้ รวม 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2564)

แนะรัฐตัดสินใจช่วยด่วน

“วสุเชษฐ์” ยังทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ว่าสถานการณ์ในวันนี้รัฐบาลจะประกาศปลดล็อกมาเป็นระยะ แต่สำหรับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในห้วงเวลานี้โอกาสแทบจะไม่มี หากภาครัฐไม่เข้ามาช่วยประคับประคอง

และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่า “ธุรกิจท่องเที่ยว” ยังควรเป็นธุรกิจที่จะต้องช่วยเหลือหรือไม่ หากมองว่าท่องเที่ยวยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็ควรต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อย่าปล่อยให้ผู้ประกอบการตายก่อน เพราะถึงวันนั้นทุกอย่างจะปลุกไม่ขึ้น

อ่านข่าวต้นฉบับ: “รถทัวร์นำเที่ยว” ตายสนิท (คาด) ปี’65 เหลือไม่ถึงหมื่นคัน

Credit ข่าวและภาพจาก ฟีดข่าวประชาชาติ : https://www.prachachat.net

Recommend more :

“แอร์เอเชีย” อัดโปรเเรงบิน 499 บาท ทั่วไทย รับหยุดยาว ตั้งเเต่ 12 เมษาฯนี้
“ทีเส็บ” MOU ภาคีเครือข่าย “เปิดเมืองปลอดภัย” 10 เมืองไมซ์
ซี.พี.แลนด์ทุ่ม 2 พันล้าน ลงทุนโรงแรมใหม่จับ “ไทยเที่ยวไทย”
โรงแรม 3.7 พันแห่ง ปิดตาย ทุนต่างชาติไล่ทุบราคา “ภูเก็ต-สมุย”
“การบินไทย” จ่อ Take off ตั้งเป้า 5 ปีรายได้ฟื้นแตะแสนล้าน
เดซติเนชั่นแคปฯสบช่องโควิด ระดมทุน 2.5 พันล.ไล่ซื้อโรงแรมเข้าพอร์ต
“การบินไทย” พร้อมร่วมมือสาธารณสุข ขนส่งวัคซีนโควิด-19 จากจีน
สุดอั้นโควิด ‘สงกรานต์’ คึก อีเวนต์เมืองท่องเที่ยวจัดยาว
การบินไทย จ่อพับแผนบินใหม่ 25 ธ.ค. หลังโควิดระบาดรอบสอง
เมอเวนพิค BDMS ย้ำผู้นำ ASQ ผนึก รพ.กรุงเทพรองรับโควิด
5 สมาคมท่องเที่ยว ลุ้นรัฐอนุมัติวงเงินกู้เสริมสภาพคล่อง “หมื่นล้าน” รีสตาร์ทธุรกิจ
ดุสิตฯ ปรับกลยุทธ์ฝ่าโควิด มุ่งสร้างรายได้ Non-Room

Leave a Reply