เกือบ 1 ปีแล้วที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร
อ่านข่าวต้นฉบับ: ททท. ต่อยอดโครงการ SHA ส่งสัญญาณพร้อมรับนักท่องเที่ยว

เกือบ 1 ปีแล้วที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ, กระทรวงสาธารณสุข, หอการค้าไทย รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนโครงการแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA

ด้วยการนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขมาผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพมาสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

สำหรับประเภทสถานประกอบการแบ่งออกเป็น 10 ประเภท ประกอบด้วยภัตตาคาร/ร้านอาหาร, โรงแรม/ที่พัก/สถานที่จัดการประชุม, นันทนาการ/สถานที่ท่องเที่ยว, ยานพาหนะ, บริษัทนำเที่ยว, สุขภาพและความงาม, ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า, กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว, โรงละคร/โรงมหรสพ/การจัดการแสดง และร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่น ๆ

ซึ่งในกระบวนการจะทำการตรวจประเมิน checklist พร้อมรับรองผลการปรับปรุงสถานประกอบการตามมาตรฐาน SHA โดย ททท.จะเป็นผู้ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ และมีการระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์ SHA ให้กับผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีพันธมิตรเข้ามาร่วมโครงการจำนวนมาก และมีสถานประกอบการที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ไปแล้วกว่า 8,000 แห่ง จากเป้าหมายที่วางไว้ที่ประมาณ 7,000 แห่ง ในปีแรกนี้ (ดูตารางประกอบ)

ตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA จึงกลายเป็นภาพใหญ่ในยุค new normal ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวไปแล้ว

ขณะที่ ททท.และสำนักงานสาขาของ ททท.ก็เริ่มประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็จะสอบถามถึงสถานประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ร้านอาหาร, รถนำเที่ยว, แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ

และไม่เพียงเกณฑ์มาตรฐานที่ได้ดำเนินการไปแล้วเท่านั้น หลังจากที่ประเทศไทยได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นกรมอนามัย, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, กรมควบคุมโรค ฯลฯ ยังออกมาตรการที่เข้มข้นขึ้นด้วย โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าควรจะทำอะไรเพิ่มเติมในจุดไหนบ้าง

ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มร้านอาหารที่ปัจจุบันมีการผ่อนคลายในการให้บริการมากขึ้น ทางกรมอนามัยก็จะมีแนวทางการตรวจที่เข้มข้นขึ้น และใช้กองสุขาภิบาลอาหารลงไปตรวจเชิงรุกด้วย เพื่อทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าร้านอาหารที่เปิดให้บริการอยู่นั้นเขามีมาตรการดูแลอย่างดี

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีโครงการที่เรียกว่า “Thailand Traveller Voice : เที่ยวมั่นใจ บอกได้ทุกเรื่อง” เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวแจ้งข้อมูล ปัญหา ที่พบจากจุด/แหล่งบริการ
ท่องเที่ยวต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ อาทิ เรื่องมาตรฐานสุขอนามัยที่ได้รับจากผู้ให้บริการ, มาตรฐานความปลอดภัย, การให้บริการต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ เป็นต้น

และจะเป็นศูนย์กลางในการรับข้อมูลความคิดเห็น ปัญหาต่าง ๆ จากนักท่องเที่ยวและส่งต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริหารจัดการต่อไป รวมทั้งร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจการท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

“ฐาปนีย์” ยังบอกด้วยว่า สำหรับปีนี้ ททท.จะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน SHA ต่อไป โดยตั้งเป้าให้มีผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจและได้รับตราสัญลักษณ์เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 15-20% ซึ่งก็สอดรับกับมุมของผู้ประกอบการเองที่ต้องรีบปรับตัวให้ก้าวสู่มาตรฐานของโลกยุคใหม่ ที่เรียกว่า hygiene tourism เช่นกัน

นอกจากนี้ ททท.ยังมีแผนต่อยอดโครงการ SHA ภายใต้ชื่อ SHA Next โดยโฟกัสลงลึกในแต่ละหมวดของสถานประกอบการมากยิ่งขึ้น เช่น ในหมวดภัตตาคาร ร้านอาหาร ก็จะเพิ่มกลุ่มของสตรีตฟู้ด หรือในหมวดแหล่งท่องเที่ยวก็มีแผนเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น

พร้อมทั้งมีโครงการ Best of SHA Award ประกาศรางวัลสุดยอดสถานประกอบการ SHA ซึ่งในอนาคตอาจ co-branding กับมิชลิน เพื่อให้ร้านอาหารที่ได้รางวัลมิชลินและได้มาตรฐาน SHA ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านสาธารณสุขควบคู่ไปด้วย จากเดิมที่เน้นเรื่องความสะอาด อร่อย เป็นหลัก

โดยมีเป้าหมายทำให้ตราสัญลักษณ์ SHA เป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้บริโภคคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และทำให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยจริงใจกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และป้องกันไม่ให้ “การท่องเที่ยว” กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแพร่เชื้อโควิด

ที่สำคัญเป็นการส่งสัญญาณด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุก ๆ กลุ่ม และทุก ๆ ประเภทจากทั่วโลกแล้ว…

อ่านข่าวต้นฉบับ: ททท. ต่อยอดโครงการ SHA ส่งสัญญาณพร้อมรับนักท่องเที่ยว

Credit ข่าวและภาพจาก ฟีดข่าวประชาชาติ : https://www.prachachat.net

Recommend more :

“เคป&แคนทารี” เสริมพอร์ต ทุ่ม 500 ล้านเปิดโรงแรมบ้านฉาง
ททท.ตั้งเป้าอีก 2 ปี เที่ยวไทยขยับสู่ “กลุ่มคุณภาพ”
การบินไทย แก้ไขเดดไลน์ส่งแผนฟื้นฟูกิจการแก่ศาลล้มละลายกลางเป็นภายใน 2 ก.พ.64
“รถทัวร์นำเที่ยว” ตายสนิท (คาด) ปี’65 เหลือไม่ถึงหมื่นคัน
กำลังซื้อคนไทยติดหล่ม ท่องเที่ยวปลุกไม่ขึ้น-ดันเปิดรับต่างชาติ
“แอร์เอเชีย” อัดโปรเเรงบิน 499 บาท ทั่วไทย รับหยุดยาว ตั้งเเต่ 12 เมษาฯนี้
“อโกด้า” เผยสงกรานต์คนไทยแห่เที่ยวทะเล พร้อมนอนหรูอยู่โรงแรม 4-5 ดาว
“ไมเนอร์ โฮเทลส์” ผนึกฟันยาร์ด โฮเทลส์ฯ รับขยายธุรกิจในจีน
“ทีเส็บ” MOU ภาคีเครือข่าย “เปิดเมืองปลอดภัย” 10 เมืองไมซ์
“ศักดิ์สยาม” เผยสนามบินภูเก็ตพร้อมรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจกลุ่มพิเศษ
AWC รับอุตฯ ท่องเที่ยวซบต่อเนื่องทุบตัวเลขไตรมาส 3/63 ยังขาดทุน 620 ล้าน
คิง เพาเวอร์ ลุยขายสินค้าทั้ง Duty Free และ Non Duty Free 

Leave a Reply