หลังจากโมเดลการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรูปแบบต่าง ๆ
อ่านข่าวต้นฉบับ: ท่องเที่ยวถกสารพัดโมเดล ปลดล็อก “กักตัว” ต่างชาติ

หลังจากโมเดลการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น STV หรือกลุ่มที่เข้ามาพำนักระยะยาว กลุ่มกอล์ฟ ควอรันทีน (golf quarantine) หรือล่าสุดคือ กลุ่มวิลล่า ควอรันทีน (villa quarantine) ได้รับการตอบรับที่ดี และดำเนินการได้สำเร็จ

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้เดินหน้าผลักดันโมเดลใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความประสงค์เดินทางเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะการผ่อนคลายในเรื่องมาตรการกักตัวอย่างต่อเนื่อง

ผ่อนคลายมาตรการทุก 2 เดือน

“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ บอกว่า ขณะนี้กระทรวงได้ทำการศึกษาแผนการเปิดประเทศในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งมาตรการผ่อนปรนเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนับจากเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป จะเห็นแนวโน้มการปรับลดวันกักตัวและเงื่อนไขสำหรับมาตรการกักตัว (quarantine) ในทุก ๆ 2 เดือน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

โดยรัฐบาลได้ดำเนินการปลดล็อกจำนวนวันกักตัวให้ลดลงแล้ว พร้อมทั้งหามาตรการใหม่ ๆ มารองรับเพื่อให้บรรยากาศการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่อนคลายขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปเข้ามาได้โดยไม่ต้องทำการกักตัวอีกต่อไปในเดือนตุลาคม 2564 นี้

ทำแผน 4 โมเดล 4 ช่วงเวลา

โดยขณะนี้กระทรวงได้ทำแผนสำหรับเปิดประเทศไว้ 4 โมเดล ใน 4 ช่วงเวลา ประกอบด้วย

1.wellness leisure หรือรูปแบบ area quarantine และ hotel quarantine (เมษายน-พฤษภาคม 2564) คือ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่กักตัว 14 วันในโรงแรมนั้น สามารถออกนอกห้องพักเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรม และในพื้นที่ที่กำหนดได้ตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไป

2.exclusive travel area หรือ seal route (มิถุนายน-กันยายน 2564) ลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน หรือต่ำกว่า โดยนักท่องเที่ยวที่กักตัวสามารถทำกิจกรรมในโรงแรมและในเส้นทางท่องเที่ยวที่กำหนด หรือในโรงแรมที่เป็น area quarantine มากกว่า 1 โรงแรม

3.sand box (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) เป็นรูปแบบเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว หรือกักตัว 1 วันระหว่างรอผล SWAB test สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว หรือนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วไม่ต่ำกว่า 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ใน 7 พื้นที่เมืองท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต, สมุย, เกาะเต่า, เกาะพะงัน, กระบี่, ชลบุรี และเชียงใหม่

และ 4.self-quarantine (มกราคม 2565 เป็นต้นไป) โดยรูปแบบนี้จะเปิดประเทศทุกพื้นที่โดยไม่ทำการกักตัว หรือกักตัว 1 วันระหว่างรอผล SWAB test สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วและมีวัคซีนพาสปอร์ต มีระบบติดตามตัว ที่สำคัญ ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (ดูตารางประกอบ)

ตั้งเป้าเปิด Sand Box 1 ก.ค.นี้

ไม่เพียงเท่านี้ ในที่ประชุมหารือเตรียมความพร้อมเรื่องแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 10 มีนาคมที่ผ่านมานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ระบุด้วยว่า ตามไทม์ไลน์เดิมนั้น รัฐบาลจะประกาศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวในเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

แต่เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก กระทรวงจะเร่งขับเคลื่อนโมเดล sand box (แซนด์บอกซ์) เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 ครั้งแล้ว ให้มาเที่ยวประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ให้สามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ หรือเร็วขึ้นอีก 2-3 เดือน

ทั้งนี้ จะนำร่องโดยกำหนดพื้นที่ใน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต, กระบี่ และพังงา เนื่องจากทั้ง 3 จังหวัดนี้สร้างรายได้รวมกันในปี 2562 ที่ผ่านมาถึงกว่า 6 แสนล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 5 หรือประมาณ 20% ของรายได้รวมการท่องเที่ยวไทย 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภูเก็ตมูลค่า 4.7 แสนล้านบาท กระบี่มูลค่า 1 แสนกว่าล้านบาท และพังงามูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท

เตรียมชง ศบค. 19 มี.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเปิดใช้โมเดลดังกล่าวนี้ จำนวนประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% ด้วย ดังนั้นตัวแปรหลักที่จะทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโควตาของวัคซีนที่จะได้รับมาด้วยเช่นกัน

พร้อมย้ำว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำแผนงานดังกล่าวนี้เสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันที่ 19 มีนาคมนี้

ย้ำ “วัคซีน” คือความหวัง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคเอกชนโดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สภาหอการค้าฯก็ได้จัดทำรายงานการศึกษาการกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว 2564 เรื่องการทยอยเปิดการท่องเที่ยวให้เร็วขึ้นภายใต้การควบคุมทางสาธารณสุข โดยระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการสาธารณสุขที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว คือ การเดินทางระหว่างประเทศที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) หรือประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง

โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นสามารถสร้าง herd immunity รองรับการเปิดการท่องเที่ยวให้เร็วขึ้นได้ให้ทันการแข่งขัน โดยกำหนดกลยุทธ์การฉีดวัคซีนหนาแน่นในพื้นที่จำเพาะเพื่อการท่องเที่ยวคู่ขนานไปกับแผนการฉีดวัคซีนของประเทศ

ขณะที่ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ยอมรับว่า สถานการณ์ในวันนี้ทุกคนรอความหวังจากการฉีดวัคซีน โดยภาคเอกชนสนับสนุนโมเดล sand box เต็มที่ พร้อมเตรียมทำรายละเอียดนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณา และเตรียมทำการตลาดในลำดับต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับ: ท่องเที่ยวถกสารพัดโมเดล ปลดล็อก “กักตัว” ต่างชาติ

Credit ข่าวและภาพจาก ฟีดข่าวประชาชาติ : https://www.prachachat.net

Recommend more :

ท่องเที่ยวอ่วม วอนรัฐอุ้ม “การจ้างงาน”
“ไมเนอร์ โฮเทลส์” ขยับรุกเวลเนส-อาหารรับธุรกิจฟื้น
ไทยเวียตเจ็ท อัดโปรฯบินคุ้มรับหน้าหนาวซื้อ 699 แลกส่วนลดได้ 1 พัน
หลบโควิด! คนจองสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” เลื่อนวันเข้าพักได้ 6 เดือน -1 ปี
‘ดุสิตธานี’ รุกปักหมุดญี่ปุ่น
ซี.พี.แลนด์ทุ่ม 2 พันล้าน ลงทุนโรงแรมใหม่จับ “ไทยเที่ยวไทย”
คืนเงินค่าจองโรงแรม “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้ ในพื้นที่ล็อกดาวน์
อาคม ไม่ทิ้งกัน! เปิดช่องอุ้มสายการบิน-แอร์เอเชียหยุดจ้าง 4 เดือน
กรมการท่องเที่ยวเร่งยกระดับ “HomeLodge” ทั่วประเทศ
“พิพัฒน์” จ่อชงเปิด “บับเบิล” จีน หวัง 22 มณฑลปลอดโควิดกระตุ้นเศรษฐกิจ
ครม.ไฟเขียว ซอฟต์โลน “มีที่ มีเงิน” หมื่นล้าน อุ้มธุรกิจท่องเที่ยว
เวียตเจ็ท บินรับตรุษจีนด้วยตั๋วเริ่มต้นแค่ 99 บาท

Leave a Reply