“ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ไม่ปัง ! วงในเผย ก.ค.-ก.ย.เป็นโลว์ซี
อ่านข่าวต้นฉบับ: ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ไม่ปัง แอร์ไลน์-โรงแรม รอดีมานด์จริงก่อนลงทุน

“ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ไม่ปัง ! วงในเผย ก.ค.-ก.ย.เป็นโลว์ซีซั่น ผู้ประกอบการ “สายการบิน-โรงแรม” รอประเมินดีมานด์จริงก่อนขยับลงทุนเพิ่ม สมาคมโรงแรมชี้ผู้ประกอบการขอ wait & see คาดธุรกิจเริ่มออกสตาร์ตได้จริงตุลาคม “นกแอร์” ยันพร้อมเปิดไฟลต์บินเพิ่มรอแค่ดีมานด์จริง

แหล่งข่าวในธุรกิจสายการบินรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โมเดล “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ของจังหวัดภูเก็ตว่า ในช่วงเริ่มต้นนี้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปภูเก็ต ส่วนใหญ่น่าจะเป็นตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจากยุโรป แต่ก็คาดว่าน่าจะยังมีปริมาณไม่มากนัก เนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยว

รอประเมินดีมานด์จริง

ที่สำคัญ เงื่อนไขใหม่ของการเข้าภูเก็ตนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องพักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต 14 วัน ซึ่งกลุ่มที่สนใจน่าจะเป็นกลุ่มที่เข้ามาพำนักระยะยาว หรือลองสเตย์เป็นหลัก ซึ่งยังคงเป็นตลาดเดิมที่ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเหล่านั้นต้องทำการกักตัวในโรงแรม ASQ ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินภายในประเทศรวมถึงโรงแรมบางส่วนยังไม่ขยับตัวรับมาตรการดังกล่าวมากนัก

“แม้ว่าที่ผ่านมาสายการบินอินเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเอมิเรตส์ กาตาร์ บริติชแอร์ไลน์ ฯลฯ รวมถึงสายการบินไทยที่ประกาศเปิดเส้นทางบินตรงจากยุโรป ตะวันออกกลางสู่ภูเก็ต รวมถึงไทยสมายล์ที่ประกาศเปิดเส้นทางภูเก็ต-ฮ่องกงนั้น ถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูเก็ต และของไทยมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมล่วงหน้าสั้นลง ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทั้งโรงแรม และสายการบินภายในประเทศรอประเมินดีมานด์จริงอีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว

โรงแรมขอ wait & see

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้น ขณะนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่น่าจะอยู่ระหว่าง wait & see เพื่อประเมินสถานการณ์และดีมานด์ให้ชัดเจนกว่านี้ โดยจากการพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการพบว่า โรงแรมในจังหวัดภูเก็ตยังไม่ได้กลับมาเปิดให้บริการมากนัก โดยคาดว่าน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงแค่ประมาณ 5-10% เท่านั้น กล่าวคือ จากเดิมที่เปิดให้บริการอยู่ประมาณ 20% อาจเพิ่มขึ้นมาเป็น 25-30% เดือนกรกฎาคมนี้

“ที่ผ่านมาโรงแรมทั่วประเทศรวมถึงที่ภูเก็ตกระทบหนักมาก ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน จึงยังไม่กลับมาเปิดให้บริการได้ทั้งหมด เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำหรับการกลับมาเปิดโรงแรมสูงมาก ทั้งค่าแรง การซ่อมแซม ค่าวัตถุดิบ ฯลฯ หากไม่มั่นใจว่าดีมานด์จะเข้ามาเพียงพอกับต้นทุนการบริหารจัดการ ส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะปิดโรงแรมต่อ ไม่เสี่ยงลงทุนล่วงหน้า” นางมาริสากล่าว

คาดธุรกิจออกสตาร์ต ต.ค.

นางมาริสากล่าวด้วยว่า การเปิดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ดี ที่ทำให้ชาวโลกรับรู้ว่าประเทศไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว อีกทั้งยังสะท้อนว่าแม้ประเทศจะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่รัฐบาลเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเดินหน้าเปิด “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ต่อไป ที่สำคัญ หากไม่ทดลองเปิดในช่วงนี้ สถานการณ์โดยรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะยิ่งได้รับผลกระทบหนัก และเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ล่าช้าออกไปอีก

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มทยอยกลับมา และน่าจะเริ่มสตาร์ตในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และวันนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับการคาดการณ์ อาจต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ในการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงเริ่มต้นนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะยังมีปริมาณไม่มากนัก เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย จะมีเพียงตลาดยุโรปและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเท่านั้น

“เซ็นทารา-อมารี” เคลียร์ห้องพักรอ

แหล่งข่าวระดับสูงจากโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารากล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กลุ่มเซ็นทาราได้เตรียมความพร้อมสำหรับโรงแรมในภูเก็ตทั้ง 7 แห่งแล้ว ประกอบด้วย 1.เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท ภูเก็ต (กะรน) 2.เซ็นทารา วิลลา ภูเก็ต (กะรน) 3.เซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต (กะรน) 4.เซ็นทารา กะตะ รีสอร์ท ภูเก็ต (กะตะ) 5.วอเตอร์ ฟร้อนท์ สวีท ภูเก็ต บาย เซ็นทารา (กะรน) 6.ไม้ขาว ดรีม วิลลา รีสอร์ทและสปา เซ็นทาราบูติกคอลเลกชั่น (หาดไม้ขาว) และ 7.โรงแรมไม้ขาว บริหารโดยเซ็นทารา (หาดไม้ขาว) โดยปัจจุบันพนักงานทุกโรงแรมได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% แล้ว

โดยขณะนี้ ทีมบริหารอยู่ระหว่างการเตรียมแผนออกแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับโรงแรมเครือเซ็นทาราทั้งหมดในภูเก็ต ทั้งในส่วนที่โฟกัสตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวคนไทย คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า

เช่นเดียวกับ นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เจ้าของและผู้บริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์อมารี, โอโซ, ซามา, ซามา ฮับ รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมโรงแรมในภูเก็ต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายภูเก็ตแซนด์บอกซ์แล้วเช่นกัน

เปิดราคา 14 วัน เริ่มต้น 6.3 หมื่น

แหล่งข่าวจากกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้บริษัทได้ออกแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตแล้ว ประกอบด้วย โรงแรมอมารี ภูเก็ต ภายใต้แพ็กเกจ “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์ 14 วัน” รวม 2 แพ็กเกจ ได้แก่ ราคา 63,999 บาท+++ สำหรับการเข้าพักห้องเดอลุกซ์ วิวทะเล ระยะเวลา 14 วัน และแพ็กเกจ 105,999 บาท+++ สำหรับการเข้าพักห้องสวีท คลับ วิวทะเล พร้อมระเบียง ระยะเวลา 14 วัน

โดยราคาดังกล่าวนี้รวมบริการเพิ่มเศษต่าง ๆ จำนวนมาก อาทิ อาหารเช้า, รถรับ-ส่งระหว่างโรงแรมและสนามบินนานาชาติภูเก็ต ในวันเช็กอินและเช็กเอาต์ ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR พร้อมรถรับ-ส่งระหว่างโรงแรมและโรงพยาบาล ในวันที่ 6 และ 12 ของการเข้าพัก เป็นต้น สำรองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2564 สำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ตุลาคม 2564

ส่วนโรงแรมโอโซ ภูเก็ต ได้ออกแพ็กเกจสำหรับครอบครัว (short family retreat package) ราคาเพิ่มต้นที่ 1,727 บาท+++/คืน พร้อมสิทธิพิเศษจำนวนมาก อาทิ อาหารเช้าทุกวัน รับเครื่องดื่มค็อกเทล 1 แก้ว ทุกวัน เด็กอายุไม่เกิน 11 ปี เข้าพักและรับประทานฟรี เป็นต้น

“แอร์ไลน์ไทย” ยังไม่กล้าขยับ

แหล่งข่าวจากธุรกิจสายการบินแห่งหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้ว่าที่ผ่านมาสายการบินอินเตอร์ โดยเฉพาะสายการบินที่ให้บริการจากตลาดยุโรป ทั้งสายการบินเอมิเรตส์, กาตาร์, บริติชแอร์เวย์ส, แอร์ฟรานซ์ ฯลฯ จะประกาศแผนการเปิดเส้นทางบินตรงเข้าสู่ภูเก็ตแล้วจำนวนมาก แต่สำหรับสายการบินภายในประเทศนั้นยังไม่ค่อยเชื่อมั่นนักว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วง 3 เดือนแรก (กรกฎาคม-กันยายน 2564) นี้น่าจะมีจำนวนไม่มากนัก

“ที่ผ่านมาสายการบินทุกรายได้รับผลกระทบหนักมาก การเพิ่มเที่ยวบินต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ทุกเที่ยวบินที่เปิดให้บริการต้องไม่ขาดทุน ผู้ประกอบการทุกรายจึงรอประเมินดีมานด์ที่แท้จริง ที่สำคัญ การเพิ่มเที่ยวบินในวันนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทุกรายมีเครื่องบินรองรับอยู่แล้ว”

“นกแอร์” พร้อม รอแค่ดีมานด์

นายธีรพล โชติชนาภิบาล ที่ปรึกษาและกรรมการบริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับสายการบินนกแอร์นั้นมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเพิ่มไฟลต์บินสู่จังหวัดภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ในแผนเปิดรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทยังทำธุรกิจได้ในสัดส่วนเพียงแค่ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 (ช่วงลองวีกเอนด์) เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในช่วงปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนวิกฤตโควิด ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมทั้งจำนวนเครื่องบินที่มีอยู่ถึง 22 ลำ นักบิน พนักงานต้อนรับ ฯลฯ

สำหรับแผนการเพิ่มเที่ยวบินนั้น ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอการประเมินดีมานด์จริงที่เกิดขึ้นก่อน หากมีดีมานด์ที่มากพอ ไม่ว่าจะเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และตลาดภายในประเทศ นกแอร์ก็พร้อมที่จะเพิ่มความถี่และเปิดเส้นทางบินเพิ่มได้ทันที

“ตอนนี้เรายังมีเวลาในการประเมินสถานการณ์ ซึ่งกว่าจะเห็นภาพชัดเจนน่าจะประมาณกลางเดือน หรือปลายเดือนกรกฎาคม” นายธีรพลกล่าว

ภูเก็ตยันไม่ทิ้งคนไทย

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเปิด Phuket Sandbox 1 ก.ค.นี้ว่า เอกชนภูเก็ตได้จัดโปรโมชั่นการท่องเที่ยวบนสื่อออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง และวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่วนกลางลงมาติดตามความคืบหน้าร่วมกับภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางจังหวัดได้เสนอแคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน

ซึ่งเป็นแคมเปญที่รัฐบาลชะลอการใช้ให้กลับนำมาใช้ใหม่ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าวมีเงื่อนไขว่า รัฐช่วยจ่าย 40% ลูกค้าจ่ายอีก 60% และมีคูปองโวเชอร์ 500-600 บาท

อ่านข่าวต้นฉบับ: ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ไม่ปัง แอร์ไลน์-โรงแรม รอดีมานด์จริงก่อนลงทุน

Credit ข่าวและภาพจาก ฟีดข่าวประชาชาติ : https://www.prachachat.net