ท่องเที่ยวผนึกเอกชนระดมไอเดียเปิดประเทศรับต่างชาติ เสนอ
อ่านข่าวต้นฉบับ: ชงจีนโมเดลนำร่องเปิดประเทศ โกยรายได้1.5หมื่นล้าน/เดือน

ท่องเที่ยวผนึกเอกชนระดมไอเดียเปิดประเทศรับต่างชาติ เสนอ “จีนโมเดล” เปิด “แทรเวลบับเบิล” เฟสแรก 5 มณฑลนำร่อง พร้อมชงรัฐบาลจีน 25 พ.ย. สมาคมแอตต้าคาดสร้างรายได้ 1.5 หมื่นล้านต่อเดือน ททท.เดินหน้าปลดล็อกเงื่อนไข “เราเที่ยวด้วยกัน” ปลุกเที่ยวในประเทศหนุนอีกแรง

แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อบ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อหารือแนวทางการเปิดประเทศ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในหลายภาค อาทิกระทรวงการท่องเที่ยวฯ, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงสาธารณสุข,สายการบิน, ท่าอากาศยาน, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ รวมถึงตัวแทนของภาคเอกชนท่องเที่ยว อาทิ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), สมาคมโรงแรมไทย (THA) เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อหาทางออกและแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อไป

ชู “จีนโมเดล” นำร่อง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่ร่วมประชุมเข้าใจและเห็นถึงความจำเป็นในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปในทิศทางเดียวกันว่า ประเทศไทยควรเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจีนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนโมเดลจะมีรูปแบบการเปิดอย่างไรนั้น คณะทำงานที่เกี่ยวข้องได้นัดประชุมหารือกันอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือในรายละเอียดและโมเดลการเปิดประเทศ จากนั้นจะนำไปเสนอและสรุปสุดท้ายอีกครั้งในที่ประชุมวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดให้กับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ นำไปเจรจากับทางเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ต่อไป

“เบื้องต้นคาดว่าจะนำเสนอให้คัดเลือกพื้นที่มณฑลที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและมีความปลอดภัยสูงของจีน เพื่อเปิดแทรเวลบับเบิลนำร่องก่อนประมาณ 5-6 มณฑล จากนั้นนำเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณา หากทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐของไทยจะนำแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวของไทยไปยังรัฐบาลจีนต่อไป”

ร้องเร่งเปิดบับเบิลจีน 22 มณฑล

ด้านความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการตลาดอินบาวนด์ (ต่างชาติเที่ยวไทย) นั้น เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ได้นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมบางส่วนเข้าพบ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เข้ายื่นหนังสือรายงานสถานการณ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเร็ว

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวหลังจากเข้ายื่นหนังสือว่า หลังการประเมินสมาคมคาดว่าหากในไตรมาส 1/2564 ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย แรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะตกงานกว่า 2 ล้านคน สมาคมจึงเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ขอให้นำนักท่องเที่ยวจาก22 มณฑลของจีนที่ปลอดโควิดมานานกว่า 150 วัน เข้าสู่ประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

โดย 22 มณฑลดังกล่าว อาทิ กวางตุ้ง, เจ้อเจียง, อานฮุย, เหอเป่ย์, หูหนาน,ฝูเจี้ยน, เจียงซี, ไห่หนาน, ยูนนาน, เจียงซู,ซื่อชวน และเหอหนาน เป็นมณฑลที่ปลอดภัยจากโควิดอย่างสูงเทียบเท่ากับประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ท่องเที่ยวไม่เกิน 10 วัน จึงขอเสนอว่าให้นักท่องเที่ยวจากมณฑลดังกล่าวเข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ใช้วิธีการควบคุมดูแลด้วยมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขของไทย

คาดเงินสะพัด 1.5 หมื่นล้าน

“สมาคมมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจากพื้นที่ปลอดโควิดอย่างสูงกลุ่มนี้จะช่วยนำรายได้ท่องเที่ยวช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังจะถดถอยและสร้างงานให้คนไทยเป็นจำนวนมาก โดยสมาคมประเมินว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน หรือมีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อเดือน

“หากไม่สามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ เชื่อว่าภายในเดือนมกราคม 2564 นี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยจะล้มหายตายจากไปทั้งหมดแน่นอน”

ดันปลดล็อก “เราเที่ยวด้วยกัน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ในวันพุธที่ 18 พฤศจิกายนนี้ว่า มีระเบียบวาระที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาหลายเรื่อง อาทิ การปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยการปลดล็อกเงื่อนไขหลายประการ ประกอบด้วย 1.ลดลำดับขั้นตอนและความยุ่งยากในการใช้งานเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้น

2.อนุญาตให้นำแพ็กเกจทัวร์เข้าสู่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ประกอบด้วยแพ็กเกจทัวร์หลัก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มท่องเที่ยวสูงวัยที่มีศักยภาพทางการเงินและมีเวลาว่างในวันธรรมดา ที่เสนอโดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และกลุ่มท่องเที่ยวพรีเมี่ยมเจาะกลุ่มไทยเที่ยวนอกที่มีศักยภาพทางการเงินดีซึ่งเสนอโดยสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(TTAA)

3.อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจองและจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน 60% ได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนและนำมาขอส่วนต่าง 40% คืนในภายหลังเหมือนปัจจุบัน

4.อนุญาตให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แม้จะไม่ได้จดทะเบียนเข้าระบบโรงแรม 5.อนุญาตให้สามารถวางจำหน่ายกิฟต์โวเชอร์ โรงแรม ที่พัก สปา และร้านอาหารและ 6.อนุญาตให้ขยายสิทธิคืนพักต่อนักท่องเที่ยว 1 คน จาก 10 คืนเป็น 15 คืน เป็นต้น

กระตุ้นต่างชาติเที่ยวหลังกักตัว

นอกจากนั้น ยังมีมาตรการส่งเสริมการจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้ชื่อAmazing Thailand Plus Package ที่ ททท.ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว และสายการบินการบินไทย สนับสนุนดีลพิเศษสำหรับค่าห้องพักหลังกักตัว 14 วัน ค่าวันเดย์ทริปค่าเดินทางด้วยรถโดยสารภายในประเทศ และค่าเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารภายในประเทศที่จะต้องแจ้ง ศบศ. เพื่อทราบหลังให้แนวทางลงมาต่อไป

โดยในระเบียบวาระถัดไป กระทรวงการท่องเที่ยวฯยังเตรียมเสนอให้มีมาตรการส่งเสริมการจัดสัมมนาของภาครัฐในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรง เพื่อช่วยฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ โดยนอกจากขอความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในหลาย ๆ พื้นที่ อาจจะมีการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการด้านภาษีอีกด้วย

จัดเวิร์กช็อปใหญ่ 30 พ.ย.

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. สัปดาห์นี้ จะมีวาระพิจารณาทบทวนมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อให้ปรับหลักเกณฑ์ให้เกิดความเหมาะสมสำหรับที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของหอการค้าเอง ก่อนหน้านี้ได้ประชุมกันภายในร่วมกับหอการค้า จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา เพื่อมอบโจทย์ให้เตรียมการสำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อจะระดมความเห็นกำหนดมาตรการด้านต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มแฮปปี้โมเดล กลุ่มการศึกษา กลุ่มครุยส์ และกลุ่มฟู้ดแวลูเชน ซึ่งจะเป็นภาพใหญ่ของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้

อ่านข่าวต้นฉบับ: ชงจีนโมเดลนำร่องเปิดประเทศ โกยรายได้1.5หมื่นล้าน/เดือน

Recommend more :

ลุ้น “โกดังพักหนี้” ความหวัง-ทางรอด โรงแรมไทย
วิธีโหลดแอป “เป๋าตัง” สำหรับใช้จ่ายโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
ยกเลิก “วีซ่า” แค่สะดวก ต้องเลิก “กักตัว” กระตุ้นเศรษฐกิจ
รู้จัก “ยายสา” ก่อนอุทยานฯ พีพี สั่งรื้อจาก อ่าวนาง จ.กระบี่
กฎ “ห้ามเดินทาง” ทุบ แอร์ไลน์ Q1 อ่วม!
ส.โรงแรม ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็น Hospitel รับผู้ป่วยโควิด
ไทม์ไลน์เปิดรับ “ต่างชาติ” คนท่องเที่ยวลุ้นเลิกมาตรการกักตัว
ลุ้น “วัคซีน” ปลุกท่องเที่ยว ขอ 5 ล้านโดสฉีด 5 จังหวัด
กางโรดแมป รับต่างชาติ ก่อนเปิดประเทศ มกราคม 2565
“ฮิลตัน หัวหิน” ปรับกลยุทธ์ ตอบโจทย์วิถีใหม่-จับตลาดคนไทย
“พิพัฒน์” จ่อชงเปิด “บับเบิล” จีน หวัง 22 มณฑลปลอดโควิดกระตุ้นเศรษฐกิจ
“เคป&แคนทารี” เสริมพอร์ต ทุ่ม 500 ล้านเปิดโรงแรมบ้านฉาง

Leave a Reply